การขายที่ไม่พึงประสงค์ – เบื้องหลังการปล่อยอัลวาเรซของแมนฯ ซิตี้
ในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลที่หลายคนคาดว่าจะเป็นช่วงที่ท้าทายที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบหลายปี แชมป์ พรีเมียร์ลีก ต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่ปัญหาแรก นั่นคือการย้ายทีมของ ฆูเลียน อัลวาเรซ (Julian Alvarez) กองหน้าดาวรุ่งไปร่วมทีม แอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัวสูงถึง 81.5 ล้านปอนด์
เป๊ป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) ผู้จัดการทีมชาว สเปน ไม่ต้องการให้กองหน้าวัย 24 ปีรายนี้ย้ายออกไป และการสูญเสียนักเตะที่ลงเล่นให้ทีมไปแล้ว 103 นัดในทุกรายการตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมาจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทดแทน อัลวาเรซ (Alvarez) เป็นตัวเลือกสำคัญในแนวรุกของทีม ด้วยความสามารถในการเล่นได้หลายตำแหน่งทั้งกองหน้าตัวเป้า และปีกซ้าย-ขวา
กวาร์ดิโอลา (Guardiola) อาจรู้ความจริงว่าการย้ายทีมกำลังจะเกิดขึ้น แต่คำพูดสาธารณะครั้งสุดท้ายของเขาเกี่ยวกับกองหน้าทีมชาติ อาร์เจนตินา เมื่อวันเสาร์หลังจากทีมของเขาเอาชนะ เชลซี ในโคลัมบัส แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความพยายามที่จะรั้งตัวนักเตะไว้ “เขาจะกลับมา ผมนับรวมเขาด้วย” กวาร์ดิโอลา (Guardiola) กล่าว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ อัลวาเรซ (Alvarez) ในแผนการของเขา
แต่ ซิตี้ มีนโยบายที่ยึดถือมายาวนานในการไม่เก็บนักเตะที่ไม่มีความสุขไว้กับทีม ทุกคนในสโมสรตระหนักดีว่าปัญหากับ อัลวาเรซ (Alvarez) กำลังจะเกิดขึ้นหลังจาก อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 ความสำเร็จในระดับนานาชาติทำให้ อัลวาเรซ (Alvarez) มีความมั่นใจและความทะเยอทะยานมากขึ้น เขาต้องการโอกาสในการเป็นตัวหลักและพิสูจน์ตัวเองในระดับสโมสร
อัลวาเรซ (Alvarez) ย้ายมาร่วมทีม ซิตี้ ในฐานะดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูงจาก ริเวอร์ เพลท ด้วยค่าตัวเพียง 14.1 ล้านปอนด์ ในช่วงแรกเขาต้องปรับตัวกับฟุตบอล พรีเมียร์ลีก และยอมรับบทบาทตัวสำรอง แต่หลังจากประสบความสำเร็จกับทีมชาติ เขารู้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลัก และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด โปรแกรมแข่งขัน โอลิมปิก 2024 สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่ของ อัลวาเรซ (Alvarez) คือการมี แอร์ลิง ฮาลันด์ (Erling Haaland) กองหน้าชาว นอร์เวย์ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่ในทีม สถิติเปรียบเทียบระหว่างสองคนในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของประตู แอสซิสต์ และโอกาสในการยิง ฮาลันด์ (Haaland) ครองสถิติสูงสุดในทุกด้าน ทำให้โอกาสที่ อัลวาเรซ (Alvarez) จะแย่งตำแหน่งตัวจริงเป็นไปได้ยาก
การตัดสินใจขาย อัลวาเรซ (Alvarez) ของ ซิตี้ สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายการบริหารทีมที่ยืดหยุ่นและคำนึงถึงความต้องการของนักเตะ แม้ว่าสโมสรจะไม่ต้องการสูญเสียนักเตะที่มีพรสวรรค์ แต่การรั้งตัวนักเตะที่ไม่มีความสุขไว้อาจส่งผลเสียต่อบรรยากาศในทีมในระยะยาว นอกจากนี้ ค่าตัว 81.5 ล้านปอนด์ยังถือเป็นกำไรมหาศาลจากการลงทุนเริ่มต้นเพียง 14.1 ล้านปอนด์
สำหรับ อัลวาเรซ (Alvarez) การย้ายไป แอตเลติโก มาดริด เปิดโอกาสให้เขาได้เป็นตัวหลักในทีมใหญ่ของ ลาลีกา และพัฒนาฝีเท้าภายใต้การคุมทีมของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ (Diego Simeone) ผู้จัดการทีมชาว อาร์เจนตินา ด้วยกัน ในขณะเดียวกัน ซิตี้ จะต้องหาทางทดแทนการสูญเสีย อัลวาเรซ (Alvarez) ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งจากอคาเดมี่หรือการเสริมทัพในตลาดซื้อขายนักเตะ
การย้ายทีมครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างการสร้างทีมที่แข็งแกร่งและการให้โอกาสกับนักเตะดาวรุ่ง โดยเฉพาะในยุคที่ค่าตัวนักเตะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า ซิตี้ จะสูญเสียนักเตะที่มีศักยภาพสูง แต่พวกเขาก็ได้รับผลตอบแทนทางการเงินที่คุ้มค่า ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการเสริมทัพในอนาคต
ในท้ายที่สุด การจากไปของ อัลวาเรซ (Alvarez) อาจเป็นสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ แม้ว่า ซิตี้ จะสูญเสียตัวเลือกในแนวรุก แต่พวกเขาก็ได้รับเงินจำนวนมหาศาล ในขณะที่ อัลวาเรซ (Alvarez) มีโอกาสพิสูจน์ตัวเองในฐานะกองหน้าตัวหลัก และ แอตเลติโก ได้นักเตะดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูงมาเสริมทัพ เหลือเพียงแต่จะดูว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรต่อทั้งสามฝ่ายในอนาคต
วันนี้ทางเรา จึงสรุปข่าวของ ฆูเลียน อัลวาเรซ (Julian Alvarez) มาให้ทุกคนได้อ่านกันครับ และทั้งนี้หากใครไม่อยากพลาด โปรแกรมแข่งขัน โอลิมปิก 2024 สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยครับ
Leave a Reply